เพื่อเฉลิมฉลอง Pride Month หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของความหลากหลายทางเพศ และในโอกาสที่สภาผู้แทนราษฎรสร้างประวัติศาสตร์รับร่าง กม. พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และ คู่ชีวิต วันนี้เราเลยจะขอนำเสนอตัวละครและคู่รัก LGBTQ+ จากโลกอนิเมะที่เราชื่นชอบ
หลายคนอาจสังเกตได้ว่านอกจากหมวด Yaoi (ชายรักชาย) และ Yuri (หญิงรักหญิง) ซึ่งนำเสนอตัวละครที่มีความสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ในอนิเมะทั่ว ๆ ไปแทบจะไม่มีการกล่าวถึงความสัมพันธ์ของตัวละคร LGBTQ+ อย่างเป็นทางการเลย นอกจากแฟน ๆ จะนำไปตีความหรือจิ้นต่อเอาเอง นี่อาจเป็นเพราะการยอมรับความหลากหลายทางเพศในประเทศญี่ปุ่นยังคงน้อยอยู่เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
และถึงแม้ว่าอนิเมะแนว Yaoi และ Yuri จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น แต่เนื้อหาที่นำเสนอก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เพราะเรื่องแนวนี้มักโฟกัสที่ความรักโรแมนติกชวนจิกหมอน มากกว่าความลำบากของตัวละครที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมและต้องปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตนเอง
ตัวละครและคู่รักในบทความนี้เลยจะมีตั้งแต่ความสัมพันธ์แบบซ่อนเร้นที่ไม่เปิดเผยตรง ๆ ในอนิเมะยุคคลาสสิก ไปจนถึงตัวละคร LGBTQ+ ที่เปิดกว้างมากขึ้นในโลกอนิเมะสมัยใหม่
มาดูกันเลย!
1. เซเลอร์มูน - เซเลอร์ยูเรนัส และ เซเลอร์เนปจูน
เมื่อพูดถึงตัวละครที่มีความสัมพันธ์แบบรักซ่อนเร้นในมังงะยุค 90 หลายคนคงนึกถึงเซเลอร์ยูเรนัส และเซเลอร์เนปจูน
คู่นี้ถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกวงการ LGBTQ+ ในโลกมังงะและอนิเมะ ถึงแม้ว่าการ์ตูนเวอร์ชันภาษาอังกฤษจะพยายามอ้างว่าจริง ๆ แล้วฮารุกะและมิจิรุเป็นลูกพี่ลูกน้องกันก็ตาม แต่คนดูก็น่าจะมองออกว่าลูกพี่ลูกน้องที่ไหนจะสนิทกันปานจะกลืนกินแบบนี้
2. Attack on Titan - ยูมิล และ คริสต้า
Attack on Titan มักได้รับเสียงชื่นชมจากแฟน ๆ จากการปฏิบัติต่อตัวละครที่มีความหลากหลายทางเพศในเรื่อง เพราะไม่มีการเหมารวม (stereotype) หรือสร้างให้เป็นวัตถุทางเพศ ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือยูมิลและคริสต้า ซึ่งได้รับการยอมรับในงานถาม-ตอบหลาย ๆ งานว่าทั้งคู่เป็นคู่รักกันจริง
3. การ์ดแคปเตอร์ซากุระ - โทยะ และ ยูกิโตะ
อนิเมะจาก CLAMP ไม่เพียงแต่จะมีลายเส้นที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ยังมักมีการสอดแทรกคู่รักเพศเดียวกันและตัวละคร LGBTQ+ ลงในเรื่องอย่างเปิดเผยมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการรณรงค์เรื่องนี้ในสื่ออย่างจริงจังเสียอีก ตัวอย่างคู่รักร่วมเพศจาก CLAMP ที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้นโทยะ และ ยูกิโตะ ซึ่งในหลายฉากจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทั้งสองเป็นมากกว่าเพื่อนสนิท และโทยะยังยอมสละพลังเวทย์มนตร์ของตนเพื่อช่วยชีวิตยูกิโตะไว้ด้วย
4. เดธโน้ต - เรม
ถึงแม้ว่าจะมีการพูดถึงความสัมพันธ์ของไลท์กับ L ในวงกว้างมากกว่า แต่มีอยู่ตัวละครหนึ่งในเดธโน้ตที่เป็น LGBTQ+ อย่างแน่นอน นั่นก็คือ ยมทูตหญิงนาม "เรม" ซึ่งหลงรักอามาเนะ มิสะ ถึงขั้นยอมสละชีวิตให้ได้ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่ามิสะไม่ได้สนใจในตัวเรมแต่อย่างใด
5. Neon Genesis Evangelion - ชินจิ และ คาโอรุ
อีกหนึ่งอนิเมะยุค 90 ที่มีการพูดถึงความสัมพันธ์แบบรักซ่อนเร้น หรืออย่างน้อยก็เป็นจุดเริ่มต้นของมัน ตัวละครหลักของเรื่อง Evangelion อย่างชินจิ ไม่ค่อยสนใจตัวละครหญิงในอนิเมะมากนัก แต่เมื่อคาโอรุเข้าร่วมเป็นนักบินใหม่ในตอนที่ 24 ทั้งสองได้กลายเป็นมากกว่าเพื่อนอย่างรวดเร็ว เราจะได้เห็นการแสดงความรักที่ไม่โจ่งแจ้งของทั้งสองอยู่ในหลาย ๆ ฉาก
6. Yuri!!! On Ice - ยูริ และ วิคเตอร์
ถ้าพูดถึงอนิเมะ LGBTQ++ จะพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไงกัน เพราะ Yuri!!! on Ice ถือเป็นจุดเปลี่ยนความรักเพศเดียวกันที่แสดงออกในอนิเมะในปี 2016 ถึงแม้ว่าอนิเมะเรื่องนี้อาจอยู่ก้ำกึ่งระหว่างอนิเมะทั่วไปที่มีตัวละครรักร่วมเพศกับ Yaoi เนื่องจากไม่มีการแสดงความสัมพันธ์รักโรแมนติกอย่างโจ่งแจ้ง แต่หลายคนที่ดูอนิเมะก็พอจะมองออกว่าฉากกระโดดกอดกันของทั้งคู่หลังจบการแข่งขันนั้นมีมากกว่ากอดแน่นอน แถมผู้สร้างอนิเมะ ได้แก่ ผู้เขียน Mitsurō Kubo และผู้กำกับ Sayo Yamamoto ก็ยังยืนยันว่าทั้งสองเป็นคู่รักกัน
7. Wandering son - ชูอิจิ และ โยชิโนะ
มังงะเรื่องนี้ถูกตีพิมพ์ในปี 2002 และได้รับการสร้างเป็นอนิเมะในปี 2011 เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการเผชิญหน้าและเติบโตของตัวละครข้ามเพศ 2 คน ได้แก่ชูอิจิ เด็กผู้ชายที่ต้องการเป็นเด็กผู้หญิง กับโยชิโนะ เด็กผู้หญิงที่ต้องการเป็นเด็กผู้ชาย ซึ่งทั้งสองได้ช่วยเหลือกันและกันให้ค้นพบความรักตัวเอง
wandering son ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากกลุ่มแฟน ๆ อนิเมะชาว LGBTQ+ เนื่องจากเป็นการ์ตูนที่แสดงถึงสังคมของชาวข้ามเพศในประเทศญี่ปุ่นเรื่องแรก ๆ ในต้นศตวรรษที่ 21
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีอนิเมะจำนวนมากที่มีการพูดถึง LGBTQ+ อย่างมีนัยสำคัญ และได้ทลายความเชื่อเดิม ๆ เกี่ยวกับเรื่องบทบาททางเพศ ไม่ว่าจะเป็น Jojo's Bizarre Adventure, Stein;s Gate, Sweet Blue Flowers, Banana Fish ฯลฯ
เราหวังว่าจะได้เห็นตัวละครและอนิเมะที่ฉีกบทบาททางเพศเดิม ๆ มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าสังคมไม่ควรตีกรอบเรื่องเพศ หรือความสัมพันธ์รูปแบบใด ๆ เพราะไม่ว่าอย่างไร เราย่อมมีสิทธิเป็นสิ่งที่เราอยากเป็น และรักในสิ่งที่เราอยากรัก ไม่มีใครควรพรากสิทธิเหล่านี้ไปจากเราได้
