เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเห็น อ่าน หรือได้ยินอะไรเกี่ยวกับโตเกียวรีเวนเจอร์ส (Tokyo Revengers) จะมีคนๆหนึ่งที่คุณนึกถึงทันที และคนๆนั้นก็ไม่ใช่ ฮานากาคิ ทาเคมิจิ พระเอกของเรื่อง
ใช่ เรากำลังพูดถึงตัวละครยอดนิยมที่ชื่อ ซาโนะ มันจิโร่ หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ไมกี้” หัวหน้าแก๊งโตเกียวมันจิไค (เรียกสั้นๆว่า โตมัน) ต่างหาก!
เราจะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องประหลาดเกี่ยวกับไมกี้แห่งโตเกียวรีเวนเจอร์ส
อะไรคือสิ่งที่ทำให้ไมกี้มีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา ทั้งยังน่าหลงรักสุดๆ
มาหาคำตอบกันเถอะ!
**คำเตือน: บทความนี้มีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญบางส่วน**
สารบัญ
5 ความจริงเกี่ยวกับไมกี้
สิ่งที่ทำให้ไมกี้แตกต่างจากตัวละครการ์ตูนโชเน็นทั่วไปที่เก่งเว่อร์เกิน คือ ถึงแม้ตัวเขาจะมีความเก่งกาจ แต่ก็มีบุคลิกและการพัฒนาที่ซับซ้อน ทำให้เขาเป็นตำนานทั้งในและนอกจักรวาลของโตเกียวรีเวนเจอร์ส
ต่อหน้าคนที่เขารัก ไมกี้เป็นคนรักอิสระและมีนิสัยเหมือนเด็ก แต่เมื่ออยู่กับแก๊งโตเกียวมันจิไค เขาคือบอส คือผู้นำที่มีเสน่ห์ซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกยำเกรงและเคารพเลื่อมใสได้ในเวลาเดียวกัน
ภาพขวา:ไมกี้กำลังจะยกพวกไปสู้กับนักเลงแก๊งอื่น VS. ภาพซ้าย:ไมกี้กำลังจะไปฉลองวันเกิด
ภาพด้านบนแสดงให้เห็นถึงความย้อนแย้งอย่างสุดขั้วในตัวละครตัวเดียว ถึงอย่างนั้น ไมกี้ก็สามารถเป็นทั้งสองแบบได้อย่างง่ายดาย พร้อมๆกับหว่านเสน่ห์ใส่หัวใจคุณได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
แล้วไมกี้เป็นใครกันแน่?
อะไรทำให้เขามีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา ทั้งยังน่าหลงรักสุดๆ
ไม่ต้องเกริ่นให้มากความ เรามาดู 5 ความจริงเกี่ยวกับไมกี้กันเลยดีกว่า รวมทั้งความมืดที่ซ่อนอยู่ภายในตัวละครตัวนี้ ซึ่งคุณจะต้องสนใจอย่างแน่นอน
คำเตือน : สิ่งที่จะพูดถึงต่อไปนี้มีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญของมังงะและอนิเมะโตเกียวรีเวนเจอร์ส ถ้าคุณไม่อยากโดนสปอยล์ เราแนะนำว่าอย่าอ่านจะดีกว่า
#1: ไมกี้เป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและพึ่งพาได้
ลองสังเกตดูแก๊งโตเกียวมันจิไค สมาชิกแก๊ง จุดเริ่มต้น และสภาพของแก๊งในอนาคต แล้วคุณจะรู้ว่าไมกี้เป็นผู้นำที่เข้มแข็งขนาดไหน
จากเด็กเกเรสู่ผู้ล่า
แก๊งโตเกียวมันจิไคก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อกรกับแก๊งคู่อริ โดยเด็กม.ต้นเพียงไม่กี่คน อันประกอบด้วย ไมกี้, ดราเคน, คาสึโทระ, บาจิ, มิตสึยะ กับปาจิน
พวกเขาไม่ได้เป็นมากไปกว่าเด็กวัยฮอร์โมนพลุ่งพล่านรักพวกพ้องทั่วๆไป ในความเป็นจริง สมาชิกรุ่นบุกเบิกของแก๊งใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการซิ่งมอเตอร์ไซค์และกลั่นแกล้งกันไปมาเท่านั้น
แต่เมื่อข้ามมาดูปี 2017 เวลา “ปัจจุบัน” ของเรื่องที่ทาเคมิจิ พระเอกของเราข้ามเวลาจากมา แก๊งโตมันได้ผันตัวเองเป็นองค์กรอาชญากรรมเต็มรูปแบบ ก่อเรื่องผิดกฎหมายไปทั่ว กระทั่งสังหารผู้คนอย่างไม่ลังเลด้วยซ้ำ
ต่างจากยุคใสซื่อสมัย ม.ต้นลิบลับ และก็เดาได้เลยว่าไมกี้มีส่วนรู้เห็นในทุกๆด้าน
ปกครองกลุ่มแก๊ง
ไมกี้ค่อยๆ เปลี่ยนโฉมแก๊งโตเกียวมันจิไคให้กลายเป็นกลุ่มที่น่าสะพรึงกลัว
ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในขณะนั้น ลองนึกถึงวัยเรียนของคุณ ที่บรรยากาศภาพรวมของห้องเรียนมีคุณครูผู้สดใสใจดี เสียงดังฟังชัด ห้องเรียนนั้นจะเป็นห้องเรียนที่สนุกสนานครึกครื้นกว่าห้องที่มีอาจารย์ผู้เคร่งครัดเข้มงวด
นั่นแหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับแก๊งโตมัน
แม้ว่าเนื้อแท้ไมกี้จะเป็นคนสบายๆไร้กังวล ความดำมืดอันน่าเศร้าค่อยๆก่อตัวขึ้นภายในใจของเขา (จะพูดถึงเรื่องนี้ในภายหลัง) ทำให้เขาเก็บกดอุปนิสัยเหล่านั้นลงไป และยังควบคุมลูกน้องสมาชิกแก๊งโตมัน ปั้นให้พวกเขากลายเป็นอาชญากรผู้โหดเหี้ยม เพราะคติประจำแก๊งโตมันก็คือ “ทั้งปวงสู่หนึ่งเดียว หนึ่งเดียวสู่ทั้งปวง” นั่นเอง!
สมรรถภาพความเป็นผู้นำของไมกี้เกิดจากบุคลิกเยือกเย็น สง่าผ่าเผยของเขาในเวลาเอาจริงเอาจัง ความสามารถในการรับมือกับทุกสถานการณ์และปกป้องคนในปกครองได้เสมอ จึงเป็นที่เข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไมสมาชิกแก๊งคนอื่นๆถึงยอมรับนับถือไมกี้เป็นผู้นำที่พึ่งพาได้
มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่อยู่รอด
แน่นอนว่ากฎการอยู่รอดในป่านั้นให้ค่ากับผู้ที่มีพละกำลังไร้เทียมทาน และไมกี้เองก็มีพละกำลังที่ไม่ธรรมดา
ถ้าพูดถึงเรื่องการชกต่อย ไมกี้นั้นเก่งกาจเป็นอย่างยิ่ง เขาฝึกศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็กๆ และสามารถทำได้ดีจนทำให้คนรอบตัวมองว่าเขาคืออัจฉริยะอย่างแท้จริง
ไมกี้ทุ่มเทให้กับการเป็นหัวหน้าแก๊งโตเกียวมันจิไค หลายครั้งที่เขาเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดการทะเลาะวิวาทกันภายในแก๊ง
ความห้าวหาญในการต่อสู้นี้ ยิ่งเสริมให้ตัวไมกี้รวมทั้งแก๊งโตมันรั้งอันดับต้นๆของโลกใต้ดินแห่งชิบูย่า
สายตาหลักแหลมมองเห็นศักยภาพ
ถึงแม้ว่าไมกี้จะเป็นคนแข็งแกร่ง แต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะมีแค่กล้ามเนื้อไร้สมอง แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะตัดสินคุณค่าของคนจากพละกำลังเพียงอย่างเดียว
คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ก็คือความสามารถในการมองทะลุผ่านม่านหมอกและเห็นคุณค่าที่แท้จริงซึ่งซ่อนอยู่ภายในของผู้อื่น ลองนึกภาพโค้ชมวยปล้ำหรือผู้จัดการทีมที่ยอมแพ้เพียงเพราะคนในทีมดูไม่น่าจะทำผลงานได้ในทันทีสิ
ไมกี้ในด้านความเป็นผู้นำ เขาสามารถมองผู้อื่นและตัดสินความสามารถได้อย่างแม่นยำ เรื่องนี้ไม่เกินความจริงเลยเมื่อเขาประเมินทาเคมิจิ ผู้ซึ่งไม่ใช่นักมวยรุ่นเฮฟวี่เวทอะไร ไมกี้มองเห็นส่วนหนึ่งของชินอิจิโร่ พี่ชายที่ตนรักในตัวทาเคมิจิ ซึ่งก็คือเสน่ห์ที่ทำให้เขาเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้อื่น เป็นศูนย์รวมใจผู้คน รวมถึงความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้แม้สถานการณ์จะย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม
หากไมกี้ไล่ทาเคมิจิเพียงเพราะเห็นว่าเขาเป็นเด็กขี้แยอ่อนแอ ใครจะรู้ว่าเรื่องราวของโตเกียวรีเวนเจอร์สจะเป็นไปในทิศทางไหน!
#2: ไมกี้เป็นคนเยือกเย็นและสบายๆ
ว่ากันว่าสิ่งที่ตรงข้ามกันจะดึงดูดกันและกัน และนี่ก็จริงสำหรับไมกี้เช่นกัน ในแง่ที่ว่าเขาเป็นส่วนผสมของบุคลิกหลายอย่างที่ตรงข้ามกัน แน่นอนว่าเมื่อเป็นเรื่องจริงจัง เขาจะมีออร่าน่าเกรงขาม แต่พอเป็นเรื่องอื่น เขาจะกลายเป็นคนละคนเลยทีเดียว!
ความจริงข้อหนึ่งเกี่ยวกับไมกี้ คือเขาเป็นคนค่อนข้างไร้ระเบียบและขี้เกียจเมื่ออยู่บ้าน เขามีความสามารถเฉพาะตัวในการหลับได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าคนรอบตัวเขาจะคิดยังไงก็ตาม ช่างเป็นความสามารถที่น่าประทับใจอะไรอย่างนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ไมกี้ยังมีทัศนคติไม่ทุกข์ร้อนโดยธรรมชาติต่างกับวัยรุ่นคนอื่นๆ ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบในหมู่เพื่อนสนิท (ใครๆก็ชอบคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ) อย่างไรก็ตาม มันกลับทำให้เอ็มม่า น้องสาวของเขาไม่พอใจอยู่บ่อยๆ การที่เธอพยายามจะทำตัวแก่กว่าอายุ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเธอต้องการจะควบคุมให้ไมกี้อยู่กับร่องกับรอยนั่นเอง
#3: ไมกี้รักครอบครัวและเพื่อนๆ
พี่ชายและผู้ปกป้อง
สองอย่างนี้อาจไม่ใช่สิ่งแรกที่คุณจะคิดถึงเมื่อนึกภาพหัวหน้าแก๊งผิดกฎหมาย แต่ไมกี้รักครอบครัวของเขามาก
เขาเคารพเทิดทูนชินอิจิโร่ พี่ชายของเขา โดยหวังว่าวันหนึ่งจะเดินตามรอยเท้าพี่ชายซึ่งมีคุณสมบัติในการเป็นผู้นำ นี่ไม่ได้หมายถึงด้านพละกำลังกายอันไม่จำกัด แต่หมายถึงเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนเข้าหาเขาโดยธรรมชาติ
ไมกี้หวงแหนเอ็มม่า น้องสาวของเขาที่ได้กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก หากพูดให้ถูกคือเอ็มม่าเป็นน้องสาวต่างแม่ แต่ทั้งสองคนก็สนิทสนมกันมาก ถึงขั้นที่หลายครั้งในเรื่อง คนที่ไม่รู้มักเข้าใจผิดว่าพวกเขาเป็นแฟนกัน ในความเป็นจริง เอ็มม่านั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้เขาเลือกใช้ชื่อเล่นว่า “ไมกี้” เขาไม่อยากให้น้องสาวรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกเพราะเป็นคนเดียวที่มีชื่อฝรั่ง
พี่น้องอีกคนของไมกี้คือคุโรคาวะ อิซานะ พี่ชายบุญธรรม เขาไม่ได้อยู่ในตระกูลซาโนะแต่กำเนิด เพียงแค่เข้ามาในชีวิตของพวกไมกี้เพราะเป็นลูกติด แต่ชินอิจิโร่ก็ปฏิบัติกับเขาเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ คอยผลักดันให้พวกเขามาอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวเดียว อิซานะอิจฉาไมกี้เพราะเขาอยากให้ชินอิจิโร่สนใจตนเองคนเดียว อย่างไรก็ตาม ไมกี้ไม่ได้แค้นเคืองเขา ทั้งยังพยายามจะช่วยเขาด้วยซ้ำหลังจากที่รู้ว่าอิซานะกลายเป็นยังไงไปแล้ว
พี่น้องร่วมทุกข์ร่วมสุข
ไม่ได้มีแค่ครอบครัวที่มีพื้นที่พิเศษภายในใจของไมกี้เท่านั้น ความรักของเขายังปรากฏในรูปแบบของความผูกพันที่เขามีร่วมกับเพื่อนๆของเขาอีกด้วย
คนแรกก็คือริวงูจิ เคน หรือ “ดราเดน” เพื่อนที่เขาเรียกอย่างสนิทสนมว่า “เคนจิน” ไมกี้กับดราเคนเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กและอยู่เคียงข้างกันมาหลายปี
ความตายและความทุกข์ที่ดูเหมือนจะรายล้อมไมกี้อยู่ตลอดเวลาทำให้เขามีจิตใจอ่อนแอ ซ้ำยังทำให้เขาซึมเศร้า เขาจำเป็นต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่คอยกันไม่ให้ตนเองหลงทาง ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่ดราเคนเป็นให้ไมกี้ คู่หูรู้ใจและเข็มทิศทางจริยธรรมที่ไมกี้หันไปพึ่งพาขอความช่วยเหลือได้ ทั้งสองสนิทกันระดับที่ว่าไมกี้ถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความดีใจเมื่อเขารู้ว่าดราเคนรอดชีวิตจากการถูกแทงบาดเจ็บสาหัส น่าสังเกตว่านั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นไมกี้ร้องไห้ในเรื่อง
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ไมกี้ยังรู้สึกสนิทสนมกับทาเคมิจิมาก ไม่ใช่เพราะความสามารถในการต่อสู้ของทาเคมิจิ (เรียกว่าไม่มีเลยจะดีกว่า) แต่เป็นเพราะความมุ่งมั่นตั้งใจของเขาซึ่งถ่ายทอดไปยังคนรอบข้าง เช่นเดียวกับดราเคน ไมกี้มองทาเคมิจิเป็นแสงสว่าง ที่จะทำให้เขาไม่หลงทางตราบเท่าที่พวกเขายังอยู่ด้วยกัน
#4: ไมกี้เคยผ่านขุมนรกมาก่อน
ถ้าพูดว่าชีวิตของไมกี้เต็มไปด้วยความยากลำบากนั้นเป็นการกล่าวน้อยเกินความเป็นจริงไปมาก ความตาย ภาวะซึมเศร้า และความสิ้นหวังล้วนวนเวียนอยู่จุดใดจุดหนึ่งในชีวิตของไมกี้ ไม่ว่าทาเคมิจิจะเดินทางข้ามเวลาไปพบเขาในไทม์ไลน์ไหนก็ตาม
ความตายของชินอิจิโร่ พี่ชายของเขา
ชินอิจิโร่พบจุดจบด้วยน้ำมือของเพื่อนของไมกี้เอง ซึ่งก็คือคาสึโทระกับบาจิ ทั้งสองบุกรุกเข้าไปในร้านมอเตอร์ไซค์ของพี่ชายคนโตบ้านซาโนะ (โดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ) ด้วยหวังว่าจะขโมยมอเตอร์ไซค์มาเป็นของขวัญวันเกิดให้ไมกี้ แต่แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือโศกนาฏกรรมต่อเนื่องซึ่งกลายเป็นจุดพลิกผันของทุกคนที่เกี่ยวข้อง
ไมกี้ไม่เพียงแต่สูญเสียพี่ชายที่เขารักและเป็นคนที่เคารพนับถือที่สุด ซ้ำร้ายยังต้องรับมือกับความชอกช้ำเมื่อได้รู้ว่าคนที่มีส่วนรับผิดชอบ คือเพื่อนสนิททั้งสองคนของเขาเอง
มิตรภาพกลายเป็นหายนะ
ความทุกข์ของไมกี้ยังคงดำเนินต่อไปอีก เมื่อภายหลังคาสึโทระแทงบาจิในช่วงที่มีการปะทะกันระหว่างแก๊งโตมันกับแก๊งวัลฮัลลาซึ่งเป็นคู่อริ สำหรับคาสึโทระ นี่อาจเป็นหนทางหนึ่งที่จะนำไปสู่จุดจบ เลือดของซาโนะที่แปดเปื้อนมือเขาทำให้เขากลายเป็นบ้า ขนาดที่ว่าเขาไม่เพียงโทษไมกี้เรื่องการเสียชีวิตของชินอิจิโร่ แต่ยังมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าว่าจะ “จบงาน” แล้วฆ่าไมกี้อีกคนด้วย
ไมกี้ตัดสินใจสู้ตายกับคาสึโทระ เพื่อยุติความบาดหมางที่กินเวลาหลายปี แต่บาจิเข้ามาขวางทั้งสอง แล้วจบชีวิตตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการนองเลือดขึ้นอีกระหว่างคนทั้งคู่ที่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน
กลายเป็นว่าตอนนี้ไมกี้ต้องรับมือกับการสูญเสียพี่น้องที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาอีกคนหนึ่ง จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าสภาพจิตใจของเขาจะจมดิ่ง
บอกลาน้องสาว
ตั้งแต่ที่เกิดอุบัติเหตุพรากชีวิตพี่ชายผู้เป็นที่รัก ตลอดจนการเสียสละอันกล้าหาญของเพื่อนสนิท ชีวิตของไมกี้ก็ดำดิ่งลงในความทุกข์
หนึ่งในแสงสว่างท่ามกลางความมืดก็คือเอ็มม่า น้องสาวของเขา ผู้ที่เขายังคงรักและทุ่มเททุกอย่างเพื่อปกป้อง แต่ทว่าเอ็มม่าก็ไม่รอดจากลูกหลงอันเลวร้ายของศึกระหว่างแก๊ง
คิซากิ เท็ตตะ ตัวร้ายของเรื่อง ได้ทำร้ายเอ็มม่าตามคำสั่งของคุโรคาวะ อิซานะ ผู้เป็นพี่ชายบุญธรรมของไมกี้กับเอ็มม่าตามที่ได้อธิบายไปแล้วข้างต้น (เป็นการชิงดีชิงเด่นกันในหมู่พี่น้อง) ไมกี้ร้อนรนทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยน้องสาวแต่ก็สายเกินไป เป็นอีกครั้งที่ซาโนะผู้บริสุทธิ์ต้องกลายเป็นเหยื่อของความรุนแรงไม่ยั้งคิด
พอคุณคิดว่าคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับไมกี้ผู้น่าสงสาร เนื้อเรื่องก็ยังเซอร์ไพรส์คุณได้อีก จนคุณถึงกับต้องสงสัยว่าเมื่อไหร่ไมกี้จะได้หยุดพักสักที
#5: ไมกี้ต้องเผชิญอนาคตที่มืดมน
ในภาคบอนเท็น ในที่สุดทาเคมิจิก็ได้ตอนจบ (ที่ตอนแรกดูเหมือนจะ) แฮปปี้เอ็นดิ้งที่เขาใฝ่ฝันมาโดยตลอด ทุกคนอยู่ดีมีสุข และฮินาตะก็เป็นคู่หมั้นของเขา
มีปัญหาเพียงอย่างเดียว คือ ไมกี้หายตัวไป
มันจะเป็นตอนจบแฮปปี้เอ็นดิ้งอย่างแท้จริงไปไม่ได้หากปราศจากหัวหน้าแก๊งโตเกียวมันจิไค ดังนั้นทาเคมิจิจึงออกตามหาเขา
ความอื้อฉาวแบบยกระดับ
โชคร้ายที่ไมกี้ที่ทาเคมิจิหาตัวเจอในที่สุด กลับต่างจากไมกี้ที่เขารู้จักดีในอดีตเป็นคนละคน
ไม่มีแก๊งโตมันอีกต่อไป แต่กลับมีองค์กรอาชญากรรมที่โหดเหี้ยมมาแทนที่ โดยที่ไมกี้ก็เป็นคนนำแก๊งเองด้วย สถานะใหม่ยังมาพร้อมกับความอื้อฉาวแบบยกระดับเช่นกัน ตอนนี้ไมกี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในอาชญากรที่ชั่วช้าที่สุดของประเทศไปแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นห่างไกลจากสิ่งที่ทาเคมิจิคาดหวังลิบลับ หลังจากที่ได้เห็นสิ่งที่เขากับไมกี้เคยผ่านพ้นมา ทำเอาคุณอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารคนทั้งคู่
ชายผู้แหลกสลาย
แม้ว่าไมกี้จะมีชื่อเสียงฉาวโฉ่ในฐานะอาชญากร แต่ชีวิตของเขานั้นพังทลายจากความทุกข์และโศกนาฏกรรมมากมายที่ตามหลอกหลอนตลอดชีวิตในวัยเยาว์ของเขา ไมกี้ในตอนนี้เป็นแค่เงาของตัวเขาเองในอดีต แต่ใครจะโทษเขาได้ล่ะ?
อันดับแรก อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า ไม่มีแก๊งโตเกียวมันจิไคอีกต่อไป ไมกี้ยุบแก๊งเอง บางทีอาจเกิดจากความรู้สึกผิดหรือเพราะรู้สึกถึงความรับผิดชอบบางอย่าง หลังจากที่ทาเคมิจิบอกเขาว่าในอนาคตแก๊งเป็นยังไง โตมันเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของไมกี้มาตลอดช่วงที่เขาเป็นวัยรุ่น ดังนั้นการที่มันหายไปจึงส่งผลในทางลบต่อไมกี้ผู้น่าสงสารอย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างที่สอง ไมกี้อยู่ตัวคนเดียว พี่น้องของเขาจากไปหมดแล้ว และเขาเองก็รักษาระยะห่างจากสมาชิกแก๊งโตมันคนอื่นๆ ไม่มีชินอิจิโร่เป็นแบบอย่าง ไม่มีเอ็มม่าให้ต่อสู้เพื่อปกป้อง และไม่มีดราเคนหรือทาเคมิจิที่เป็นพี่น้องร่วมทุกข์ร่วมสุขของเขาอีกต่อไป เขาสัญญากับทาเคมิจิว่าจะปกป้องทุกคนที่พวกเขารัก จนกว่าพวกเขาจะได้พบกันอีกครั้งในอนาคต ทว่าโชคร้ายที่ไม่อาจทำตามสัญญาได้จนถึงที่สุด
ไมกี้มีจิตใจอ่อนแอและไขว้เขวได้ง่าย (หมายถึงเข้าสู่ด้านมืดได้ง่าย) หากไม่มีแสงสว่างจากสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนๆคอยนำทาง และตอนนี้เขาก็หลงทางไปแล้วเรียบร้อย ติดกับอยู่ในความมืดที่ครอบงำลึกในใจเขามานานหลายปี ไมกี้พยายามจะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำในภาคบอนเท็น แต่ทาเคมิจิมาช่วยเอาไว้ได้ และเมื่อไมกี้วิงวอนให้ทาเคมิจิช่วยเหลือตนเองจากความมืดมิด ทาเคมิจิก็พบว่าเขาย้อนเวลาอีกครั้ง (อาจจะโดยไม่ได้ตั้งใจ) คราวนี้กลับมาสู่ยุคม.ปลายในปี 2008
เรามาเอาใจช่วยกันเถอะว่าทาเคมิจิจะช่วยไมกี้ได้ และสุดท้ายจะได้ตอนจบแฮปปี้เอ็นดิ้งที่เขาคู่ควรอย่างแท้จริง
สรุป: 5 ความจริงเกี่ยวกับไมกี้ แห่งโตเกียวรีเวนเจอร์ส
ซาโนะ มันจิโร่ หรือ “ไมกี้” จากโตเกียวรีเวนเจอร์ส เป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนที่สุดคนหนึ่ง และนี่คือสิ่งที่เราค้นพบเกี่ยวกับเขาในบทความนี้
- ไมกี้เป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและพึ่งพาได้
- ไมกี้เป็นคนเยือกเย็นและสบายๆ
- ไมกี้รักครอบครัวและเพื่อนๆ
- ไมกี้เคยผ่านขุมนรกมาก่อน
- ไมกี้ต้องเผชิญอนาคตที่มืดมน
ไมกี้เป็นตัวละครที่มีพัฒนาการเป็นอย่างมากตลอดเรื่องโตเกียวรีเวนเจอร์ส
มารอลุ้นกันเถอะว่าต่อไปเขาจะพบเจออะไรอีก
โตเกียวรีเวนเจอร์ส : แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่
ทั่วโลกกำลังติดอยู่ในกระแสโตเกียวรีเวนเจอร์ฟีเวอร์ และก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม
มังงะเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่มียอดขายเยอะที่สุดในครึ่งแรกของปี 2021 เวอร์ชั่นอนิเมะก็ทำคะแนนนิยมติดอันดับทางโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีเวอร์ชั่นภาพยนตร์ ซึ่งแสดงนำโดยนักแสดงดาวรุ่งมากฝีมืออย่าง คิตามูระ ทาคุมิ และ โยชิซาวะ เรียว ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวโดยกวาดรายได้เป็นอันดับหนึ่งของบ็อกซ์ออฟฟิศญี่ปุ่น
โตเกียวรีเวนเจอร์สเป็นจักรวาลอันกว้างใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วยตัวละครที่โดดเด่นหลายชีวิต ทุกคนล้วนเกี่ยวพันกันด้วยใยแมงมุมอันยุ่งเหยิง ซึ่งก่อเกิดจากการกระทำ ความโกลาหล และอารมณ์ความรู้สึก
แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้เป็นที่น่าจดจำ ก็คือ ถึงแม้ว่าการย้อนเวลาของทาเคมิจิจะเป็นเต็มไปด้วยความซับซ้อนและมีเรื่องราวที่ดูยิ่งใหญ่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแก่นหลักของเรื่องยังคงเป็นความสัมพันธ์มนุษย์และการเปลี่ยนแปลงของแต่ละคน
และไม่มีใครจะเป็นตัวอย่างที่ดีมากไปกว่าบอสผมทองที่ทุกคนชื่นชอบ
ซาโนะ มันจิโร่ หรือ “ไมกี้” นั่นเอง!
ถึงตาคุณแล้ว !
คุณชื่นชอบโตเกียวรีเวนเจอร์สตอนไหน?
คุณชอบใครในแก๊งโตเกียวมันจิไค?
คุณคิดว่าเรื่องราวของไมกี้จะลงเอยยังไง?
แบ่งปันให้เรารู้ได้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียกัน! (Instagram,Facebook)
ZenMarket คือบริการที่จะช่วยคุณสั่งสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น คุณสามารถคลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อหาโมเดล, ตุ๊กตา, มังงะ, ชุดคอสเพลย์ หรือสินค้าอื่นๆจากโตเกียวรีเวนเจอร์สได้
หาสินค้าโตเกียวรีเวนเจอร์ส
เขียนโดย : Cristy
นักเขียนฟรีแลนซ์และศิลปิน ผู้ชื่นชอบการวาดการ์ตูนและลงทุนคริปโต ในเวลาว่างเธอมักเข้าหาแฟนดอมมังงะ, อนิเมะ และนักพากย์ญี่ปุ่นเพื่อติดตามข่าวสารใหม่ๆ