ค่าส่งข้ามประเทศถือเป็นฝันร้ายสำหรับขาช้อปออนไลน์หลายๆคน ในบทความนี้เราจึงขอแนะนำ 6 เคล็ดลับเพื่อเซฟเงินในกระเป๋าของคุณ

เราแนะนำให้อ่านบทความนี้ถ้าคุณเป็นคนที่:
- อยากซื้อของจากเว็บญี่ปุ่น เช่น Rakuten หรือ Amazon JP แต่เจอค่าส่งแสนแพงจนต้องล้มเลิกความอยาก
- ไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น และหาข้อมูลเรื่องวิธีการส่งในญี่ปุ่นไม่ได้
- เป็นขาช้อปเจ้าประจำของเว็บญี่ปุ่น และอยากหาวิธีลดค่าส่งลง
- อยากส่งพัสดุจากญี่ปุ่นไปยังประเทศตัวเอง
คำนวณค่าส่งข้ามประเทศอย่างไร?
ก่อนอื่น เราจำเป็นต้องรู้ว่าปัจจัยที่ทำให้ค่าส่งถูกลงหรือแพงขึ้นมีอะไรบ้าง
ปัจจัยที่ใช้ในการคำนวณค่าส่งข้ามประเทศในญี่ปุ่น หลักๆแล้วมี 4 อย่าง ได้แก่
- ขนาดพัสดุ (กว้างxยาวxสูง)
- น้ำหนักพัสดุ
- ราคาพัสดุ (ศุลกากรใช้ในการคิดภาษี)
- วิธีการส่ง
นี่คือปัจจัยหลักที่ใช้ในการกำหนดค่าส่งข้ามประเทศ หากคุณต้องการประหยัดค่าส่ง ให้เริ่มคิดจาก 4 ปัจจัยนี้ว่ามีข้อไหนที่คุณสามารถลดได้บ้าง
และนี่คือคำแนะนำจากเราที่จะช่วยให้คุณประหยัดเงินขึ้น!
1. เลือกบริการขนส่งที่เหมาะสม

คุณมีตัวเลือก 2 อย่างในการส่งสินค้าจากญี่ปุ่น ได้แก่
- ไปรษณีย์ (บริการขนส่งของรัฐ) เช่น EMS, Airmail (ทางอากาศ), Surface (ทางภาคพื้น)
- บริษัทขนส่ง (บริการขนส่งของเอกชน) เช่น FedEx, UPS, DHL, SF Express
แล้วอันไหนใช้ดีกว่ากันล่ะ? นั่นขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด
ตารางด้านล่างจะทำให้คุณเข้าใจว่าตัวเลือกไหนเหมาะกับอะไรบ้าง
ส่งเร็ว
|
- FedEx, UPS, DHL และบริษัทขนส่งเอกชนอื่นๆ
- EMS
- Avia
- Surface Mail (ทางภาคพื้น)
|
น่าเชื่อถือ
|
ส่งทาง EMS ค่อนข้างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งอื่นๆที่ส่งผล เช่น ประเทศ ปลายทางในการส่ง
|
ราคาประหยัด
|
ราคาขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำหนักของพัสดุ สามารถเช็กราคาคร่าวๆได้จากโปรแกรมคำนวณหรือเว็บของบริการขนส่งแต่ละเจ้า
|
ชำนาญพื้นที่
|
ขนส่งแต่ละเจ้ามีความถนัดในการส่งแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วและค่าส่ง
ยกตัวอย่างเช่น SF Express ส่งแค่ในเอเชียตะวันออกเท่านั้น ดังนั้นคุณควรเลือก SF Express ถ้าต้องการส่งไปยังประเทศในเอเชียตะวันออก
|
อีกอย่างที่สำคัญมากก็คือ คุณควรทราบว่าประเทศของคุณไม่ให้นำเข้าอะไรบ้าง
สินค้าบางประเภทที่ส่งโดยบริษัทเอกชนจะถูกศุลกากรตรวจอย่างเข้มงวด และบางครั้งคุณจำเป็นต้องเตรียมเอกสารในการนำเข้าสินค้า เช่น อาหาร, เครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และเสื้อผ้า หากคุณไม่มีเอกสารรับรอง บริษัทขนส่งอาจนำสินค้าที่คุณซื้อเข้ามาส่งในประเทศของคุณไม่ได้
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว ZenMarket จึงจะไม่ส่งสินค้าบางชนิดให้กับขนส่งบางเจ้า ยกตัวอย่างเช่น ไปรษณีย์ไม่อนุญาตให้ส่งลำโพงข้ามประเทศ แต่คุณสามารถส่งแอลกอฮอร์ที่มีความเข้มข้นไม่เกิน 24% ได้ และคุณสามารถใช้บริการ DHL ถ้าต้องการส่งแอลกอฮอร์ที่มีความเข้มข้นมากกว่า 24%
ไม่มีขนส่งเจ้าไหนที่มีราคาถูกกว่าเจ้าอื่นเป็นพิเศษ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวแปรต่างๆ เช่น ขนาดและน้ำหนักของพัสดุ
คุณสามารถใช้โปรแกรมของเราเพื่อคำนวณค่าส่งคร่าวๆได้
>> โปรแกรมคำนวณค่าส่ง <<
โปรดทราบว่าราคาที่คำนวณเป็นเพียงราคาคร่าวๆเท่านั้น คุณจะทราบราคาจริงก็ต่อเมื่อเราแพ็คสินค้าและชั่งน้ำหนักพัสดุของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้วเท่านั้น
และราคาที่แสดงในโปรแกรมอาจถูกกว่าราคาทั่วไปเนื่องจาก ZenMarket เป็นพันธมิตรกับขนส่งบางเจ้าทำให้ได้ราคาที่ถูกลง
2. จัดพัสดุของคุณใหม่

ขนาดและน้ำหนักเป็นตัวกำหนดราคาส่งของคุณ ถ้าสินค้าที่คุณสั่งมีขนาดกับน้ำหนักแตกต่างกันมาก เรามีเคล็ดลับที่จะทำให้คุณประหยัดได้
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณซื้อตุ๊กตาตัวใหญ่ แต่มีขนาดเบา บริการขนส่งจะคิดราคาแพงเพราะวัดจากขนาดและน้ำหนัก
แต่ถ้าคุณเลือกส่งทางไปรษณีย์ (JP Post) ราคาจะถูกลง เพราะไปรษณีย์คำนวณค่าส่งจาก น้ำหนัก เพียงอย่างเดียว!
นั่นหมายความว่า ถ้าคุณต้องการส่งของที่มีขนาดใหญ่แต่มีน้ำหนักเบา คุณจะประหยัดเงินได้เยอะถ้าเลือกใช้บริการไปรษณีย์ญี่ปุ่น (ถึงแม้ว่าความเร็วในการส่งจะลดลงก็ตาม)
ในกรณีที่คุณต้องการส่งสินค้าหลายอย่างทาง Airmail ซึ่งมีการจำกัดน้ำหนักที่ 2 กก. การแยกพัสดุเป็นหลายๆชิ้นแทนที่จะส่งเป็นพัสดุชิ้นใหญ่ชิ้นเดียวอาจทำให้คุณประหยัดได้มากกว่า เนื่่องจากพัสดุใหญ่และมีน้ำหนักมากมักมีค่าส่งแพง ทั้งยังถูกเพ่งเล็งจากศุลกากรได้ง่ายอีกด้วย
ที่ ZenMarket เราสามารถแยกส่งพัสดุได้ตามที่คุณต้องการ (ยกเว้นสินค้าบางชนิดที่มีโค้ดพิเศษ ไม่สามารถแยกส่งได้)
3. เช็กภาษีนำเข้าในประเทศของคุณ

คุณสามารถเช็กได้ว่าประเทศปลายทางของคุณเก็บภาษีนำเข้าจากญี่ปุ่นหรือเปล่า ในกรณีที่มีการเก็บภาษี ให้เช็กเกณฑ์การเก็บในประเทศของคุณ
สำหรับประเทศไทย ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มูลค่า 7% และอากรศุลกากร (Duties) ตามประเภทสินค้า โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรจะคำนวณจากสินค้าที่มีอัตราอากรสูงที่สุด
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสั่งซื้อรองเท้า (อากร 30%) กับกระเป๋า (อากร 20%) และแพ็กรวมไว้ในพัสดุชิ้นเดียวกัน เจ้าหน้าที่จะคำนวณภาษีด้วยอัตรา 30% ซึ่งเป็นอากรที่สูงที่สุดสำหรับสินค้าในกล่อง
ดังนั้น เราจึงแนะนำให้คุณแยกสินค้าประเภทเดียวกันแล้วแพ็กรวมไว้ในพัสดุเดียว ไม่แพ็กสินค้าแบบคละรวม เพราะอาจทำให้ภาษีนำเข้าของคุณแพงขึ้น
คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษีได้ด้านล่าง
HOW TO ภาษีนำเข้าฉบับรวบรัด พร้อมเคล็ดลับทำอย่างไรให้ภาษีถูก
4. แพ็คพัสดุของคุณให้ดี

ถ้าประเทศของคุณไม่มีการเก็บภาษี หรือมีการยกเว้น เราแนะนำให้คุณแพ็คสินค้ารวมในพัสดุเดียว อย่างไรก็ตาม ถ้าประเทศของคุณเก็บภาษีสำหรับสินค้าบางประเภท คุณควรโฟกัสกับการทำให้ค่าส่งถูกลงมากกว่า เพราะไม่ว่าคุณจะส่งพัสดุกี่ชิ้น คุณก็ต้องจ่ายภาษีเท่าเดิมอยู่ดี
ที่ ZenMarket เรามีบริการแพ็คสินค้า หรือจัดสินค้าของคุณใหม่ให้อยู่ในพัสดุชิ้นเดียวได้
5. ตรวจสอบขนาดกล่อง

ในกรณีที่คุณใช้บริการอื่นๆนอกเหนือจาก ZenMarket คุณอาจไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าสินค้าของคุณถูกแพ็คลงในกล่องพอดีหรือเปล่า คุณควรเช็กดูให้แน่ใจว่าสินค้าถูกแพ็คลงกล่องที่มีขนาดเหมาะสม เพราะบางครั้งสินค้าที่มีขนาดไม่พอดีกับกล่องอาจทำให้คุณต้องจ่ายค่าส่งเพิ่มขึ้น
ZenMarket จัดกล่องที่พอดีกับขนาดสินค้าของคุณเสมอ คุณจึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม อีกทั้งยังทำให้สินค้าของคุณปลอดภัยอีกด้วย
6. ซื้อสินค้าที่ไม่มีค่าส่งภายในประเทศ

เว็บไซต์บางแห่ง เช่น Rakuten จะไม่เก็บค่าส่งภายในประเทศถ้าคุณสั่งสินค้าที่มีราคาเกินเกณฑ์ที่เว็บกำหนด
ดังนั้น เราจึงแนะนำให้คุณซื้อสินค้าจากเว็บช้อปปิ้งเว็บเดียว แทนที่จะซื้อจากหลายๆเว็บ เพื่อประหยัดค่าส่ง
สรุป
การขนส่งข้ามประเทศอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เราขอให้คุณจำหลักง่ายๆคือ พึงคำนึงถึงปัจจัยหลัก 4 อย่างที่ส่งผลต่อราคา และใช้โปรแกรมคำนวณค่าส่งเพื่อหาบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถประหยัดค่าส่งไปได้โข
>>โปรแกรมคำนวณค่าส่ง<<
ขอให้สนุกกับการช้อป!
