ถ้านี่เป็นครั้งแรกที่คุณลองสั่งของจากต่างประเทศ และกำลังกังวลเรื่องภาษี บทความนี้จะช่วยคุณตอบข้อสงสัยเบื้องต้นเกี่ยวกับภาษีนำเข้า วิธีคำนวณภาษีคร่าว ๆ รวมถึงสั่งของอย่างไรให้จ่ายภาษีได้ถูกลง
ภาษีศุลกากรคืออะไร? ทำไมถึงต้องจ่าย?
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเคยสั่งของจากต่างประเทศเป็นครั้งแรก อาจจะกำลังสงสัยว่า ภาษีศุลกากรคืออะไรกันแน่? ทำไมต้องจ่าย? และถ้าสั่งของมาใช้เองไม่ได้นำไปขายต่อ ยังต้องจ่ายอยู่หรือเปล่า? ฯลฯ
ภาษีศุลกากร คือ ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสินค้าที่นำเข้ามาในประเทศ โดยรัฐบาลในประเทศนั้น ๆ เป็นผู้กำหนด มักคิดเป็น % จากมูลค่าและจากชนิดของสินค้า
ถ้าสินค้าที่คุณสั่งมีมูลค่าเกินกว่าที่ศุลกากรกำหนดไว้ คุณจะต้องเสียภาษีเพื่อนำสินค้าเข้ามาในประเทศ ไม่ว่าสินค้านั้นคุณจะซื้อเข้ามาเพื่อใช้เอง หรือเพื่อใช้จำหน่ายต่อ หากเป็นสินค้าที่มีมูลค่า ต้องเสียภาษีหมดไม่มีข้อยกเว้น
คุณอาจจะกำลังสงสัยว่าทำไมต้องมีการเก็บภาษีด้วย นี่เป็นเพราะรัฐบาลต้องการกระตุ้นให้คนอุดหนุนสินค้าในประเทศมากกว่าเสียเงินให้ต่างประเทศ และไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้นที่มีการเก็บภาษี แต่ทุกประเทศมีการเก็บภาษีศุลกากรเหมือนกันหมด
ประเทศไทยคิดภาษีนำเข้าอย่างไร?
สำหรับประเทศไทย จากข้อมูลล่าสุดปี พ.ศ.2564 หากสินค้าที่นำเข้ามีราคาศุลกากร(CIF)* ไม่เกิน 1,500 บาท จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า
*ราคาศุลกากร(CIF) = ราคาสินค้า + ค่าประกันภัย + ค่าขนส่ง
แต่ถ้าสินค้ามีมูลค่าเกิน 1,500 บาท คุณต้องชำระภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
อย่างไรก็ตาม มีสินค้าบางประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าแต่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือสินค้าบางประเภทอาจไม่ต้องเสียภาษีเลย
คุณสามารถเช็กอัตราภาษีที่ต้องชำระสำหรับสินค้าแต่ละชนิดได้ที่ เว็บไซต์กรมศุลกากร โดยให้พิมพ์ชื่อชนิดสินค้าลงไปในช่องคำอธิบายภาษาไทย เช่น ถ้าคุณต้องการสั่งกระเป๋ามาจากต่างประเทศ และต้องการตรวจสอบภาษี ให้พิมพ์ลงไปว่า "กระเป๋า" เว็บไซต์จะแสดงผลลัพธ์ว่าต้องเสียภาษีกี่เปอร์เซ็นต์
ตัวอย่างอัตราภาษีสินค้าที่คนไทยซื้อบ่อย
*เป็นเพียงตัวอย่างคร่าว ๆ ภาษีจะแตกต่างไปตามประเภทย่อยของสินค้าด้วย*
เครื่องสำอาง หมวก น้ำหอม รองเท้า : 30%
กระเป๋า : 20%
CD DVD อัลบั้ม คอนเสิร์ต หูฟัง : 10%
นาฬิกา แว่นกันแดด : 5%
วิธีคำนวณภาษี
ว่าแล้วก็มาดูวิธีการคำนวณภาษีกันดีกว่า
ถ้าคุณสั่งกระเป๋าราคา 9,300 บาท
ค่าประกันภัย 200 บาท
ค่าส่งราคา 500 บาท
รวมเป็น 10,000 บาท
ค่าภาษีนำเข้าของคุณคือ
ราคาCIFกระเป๋า 10,000 x ภาษีกระเป๋า 20% = 2,000 บาท
ภาษีมูลค่าเพิ่มของคุณคือ
(ราคารวมกระเป๋า 10,000 + ภาษีนำเข้า 2,000) x 7% = 840 บาท
ดังนั้น ภาษีนำเข้าทั้งหมดที่คุณต้องจ่าย คือ
2,000+840 = 2,840 บาท
อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่านี่เป็นเพียงหลักการคำนวณเท่านั้น การคำนวณจริงจะขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ศุลกากร
ใครเป็นผู้เสียภาษีนำเข้า?
ผู้รับพัสดุจะเป็นผู้เสียภาษีนำเข้า
โปรดทราบว่า ZenMarket ไม่สามารถคำนวณภาษีให้ได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์และดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ศุลกากร อีกทั้ง ZenMarket ยังไม่มีบริการเคลียร์ภาษีให้ ดังนั้น โปรดตรวจสอบให้แน่ใจก่อนสั่งซื้อสินค้าทุกครั้ง
ต้องจ่ายภาษีให้ใคร?
เมื่อสินค้าถูกส่งมายังประเทศไทย และสินค้านั้นอยู่ในเกณฑ์ต้องโดนเก็บภาษี จะมีใบแจ้งภาษีส่งถึงคุณเพื่อให้คุณไปชำระภาษี ณ ที่ทำการไปรษณีย์ใกล้บ้านก่อนรับพัสดุ
ในกรณีที่คุณใช้บริษัทขนส่งเอกชน เช่น FedEx, DHL ในการส่งสินค้า บริษัทจะชำระภาษีและค่าดำเนินการเอกสารต่าง ๆให้คุณก่อน จากนั้นจึงเรียกเก็บเงินจากคุณทีหลัง บางบริษัทอาจเรียกเก็บเงินหลายวันหลังจากที่คุณได้รับพัสดุแล้ว
มีวิธีเลี่ยงภาษี/เคลียร์ภาษีให้ได้หรือไม่?
หนึ่งในคำถามที่ ZenMarket ได้รับบ่อยที่สุดคือ "มีวิธีเลี่ยงภาษีหรือไม่?" คำตอบคือ "ไม่มี" การเลี่ยงภาษีถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หากตรวจพบจะมีการปรับหนักหลายเท่าตัวมากกว่าภาษีที่คุณต้องการเลี่ยงจะจ่ายเยอะ
อีกหนึ่งคำถามที่พบบ่อยคือ "สามารถเคลียร์ภาษีให้ได้หรือไม่?" ในขณะนี้ ZenMarket ยังไม่มีบริการเคลียร์ภาษีให้ ทางลูกค้าต้องเป็นผู้ชำระเอง ซึ่งหากพูดกันตามตรงแล้ว บางครั้งลูกค้าอาจได้สินค้าที่มีราคาถูกกว่าสั่งจากพรีออเดอร์ หรือบริการชิปปิ้ง เนื่องจาก:
- ศุลกากรสุ่มเช็กพัสดุเพื่อเก็บภาษี ถ้าคุณโชคดี พัสดุของคุณอาจไม่โดน
- บริการชิปปิ้ง และพรีออเดอร์ที่แจ้งว่าไม่มีภาษี/เคลียร์ภาษีเรียบร้อยแล้ว หมายถึง เขาบวกค่าภาษีล่วงหน้าลงในค่าสินค้าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในกรณีส่วนใหญ่จะบวกเกินเพื่อเก็งกำไร ไม่มีใครสามารถบวกภาษีจำนวนเป๊ะ ๆ ก่อนรู้ภาษีจริงได้ ดังนั้น สินค้าที่คุณสั่งมาโดยเข้าใจว่าไม่มีภาษี/เคลียร์ภาษี เมื่อดูราคารวมจริง ๆ แล้วอาจแพงกว่าราคารวมของสินค้าที่คุณต้องจ่ายภาษีด้วยตัวเอง
คำแนะนำคือ ให้คุณสั่งสินค้าเข้ามา และรอลุ้นว่าจะโดนภาษีไหม น่าจะดีที่สุด เพราะถ้าไม่โดน ย่อมหมายความว่าคุณได้สินค้าราคาถูกกว่าพรีออเดอร์ แต่ถ้าโดนภาษี คุณก็ยังได้จ่ายตามจำนวนภาษีจริงที่ควรจ่าย ไม่มีการบวกกำไรเพิ่มจากร้าน
ทำอย่างไรถึงจะจ่ายภาษีถูกลง (แบบถูกกฎหมาย)
วิธีการที่ดีที่สุดในการที่จะไม่ต้องจ่ายภาษีคือ ให้ส่งพัสดุที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท
บางเว็บไซต์อาจแนะนำให้เขียนใบจ่าหน้าว่าเป็น "ของขวัญ" หรือให้ใส่มูลค่าสำแดงน้อยกว่าความเป็นจริง ซึ่งเป็นวิธีที่มีความเสี่ยงมาก เพราะหากพัสดุสูญหาย คุณจะได้รับเงินประกันน้อยกว่ามูลค่าจริงของพัสดุ หรือหากมีการตรวจเช็กแล้วพบว่าสินค้ามีมูลค่าไม่ตรงกับที่จ่าหน้าไว้ คุณจะต้องเสียค่าปรับเพิ่ม
หากสินค้าที่คุณสั่ง ไม่ว่ายังไงก็มีมูลค่าเกิน 1,500 บาท แนะนำให้แยกส่งสินค้าประเภทเดียวกันในกล่องเดียวกัน เช่น ถ้าคุณสั่งเสื้อ นาฬิกา และหนังสือ คุณควรส่งแยกตามประเภท เพื่อป้องกันการคิดภาษีในอัตราเหมารวม เพราะสินค้าบางอย่างอาจมีการยกเว้นภาษี แต่ถ้าคุณส่งในกล่องเดียวกันกับสินค้าที่มีภาษี เจ้าหน้าที่จะเก็บภาษีจากสินค้าชิ้นนั้นด้วย
ถ้าเข้าใจเรื่องภาษีแล้ว ก็เตรียมตัวช้อปได้เลย!
ด้วยบริการของเว็บ ZenMarket
คุณสามารถสั่งสินค้าออนไลน์จากร้านค้าญี่ปุ่นหลายพันร้าน
เราจะส่งสินค้าจากญี่ปุ่นตรงถึงบ้านคุณอย่างปลอดภัย รับรองไม่มีโกง!
การันตีด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 1.5 ล้านคนทั่วโลก
ซื้อสินค้าจากญี่ปุ่นได้ง่ายๆ
ด้วยเว็บ ZenMarket
อยากได้สินค้าจากญี่ปุ่น แต่ร้านนั้นไม่ส่งต่างประเทศ หรือไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น
ไม่ต้องกังวล! เพราะ ZenMarket คือตัวแทนช้อปปิ้งที่จะช่วยคุณซื้อสินค้าใดๆก็ตามจากประเทศญี่ปุ่น
คุณสามารถเลือกช้อปสินค้าจากเว็บช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น Amazon Japan, Yahoo! Auctions, Yahoo Shopping และ Rakuten ได้อย่างง่ายดายในเว็บเดียว เพราะเว็บ ZenMarket ได้เชื่อมต่อกับเว็บเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว
หรือถ้าคุณต้องการซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์อื่นๆ วิธีการก็ไม่ยุ่งยาก แค่ก็อปปี้ลิงก์หน้าสินค้านั้นๆมาแปะที่ช่องค้นหาเว็บ ZenMarket แล้วกดเพิ่มลงรถเข็นได้เลย!
สามารถอ่านขั้นตอนการใช้เว็บ ZenMarket สั่งซื้อสินค้าจากญี่ปุ่นอย่างละเอียดได้ที่นี่
ติดตาม ZenMarket บนโซเชียลมีเดีย
-
ZenMarket เป็นบริษัทที่ก่อตั้งใน จ.โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นในปี 2014 โดยเริ่มแรกได้ให้บริการรับซื้อสินค้าญี่ปุ่นและจัดส่งไปยังต่างประเทศไม่กี่ประเทศเท่านั้น ZenMarket ได้ขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วภายในเวลา 7 ปี ด้วยบริการที่ยอดเยี่ยม มีผู้ใช้ให้ความไว้วางใจกว่า 1.5 ล้านรายทั่วโลก ปัจจุบัน ZenMarket เปิดให้บริการมากกว่า 17 ภาษา
สามารถเช็ครีวิวของลูกค้าผู้ใช้บริการจากทั่วโลกได้ด้านล่าง
คุณยังสามารถอ่านรีวิวที่ลูกค้าส่งมาในเว็บได้ที่นี่
หรือจะเข้าไปดูช่องทางโซเชี่ยลของเรา และจากรีวิวใน Google
-
ค่าบริการของ ZenMarket นั้นเรียบง่ายและใช้เรทเดิมตลอด ไม่ว่าคุณจะซื้อสินค้าราคาถูกหรือแพงแค่ไหนก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการซื้อสินค้าราคา 1,000 เยน หรือสินค้าราคา 30,000 เยน เราคิดค่าบริการเท่ากันหมด เพียง 500 เยนต่อชิ้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามราคาสินค้า
โปรดทราบว่าในค่าธรรมเนียม 500 เยน คุณจะได้รับบริการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อพูดคุยกับร้านในญี่ปุ่นแทนคุณ, การดำเนินการสั่งซื้อสินค้า, ค่าธรรมเนียมการโอนเงินธนาคารในญี่ปุ่น(ถ้ามี), การแพ็คสินค้า อีกทั้งยังรวมถึงการจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้าของเราฟรีถึง 60 วันและค่าประกันการจัดส่งอีกด้วย คุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมของ ZenMarket ได้ที่นี่
-
ปัจจุบันเว็บ ZenMarket เปิดให้บริการกว่า 15 ภาษา และสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากบริการรับซื้อในประเทศญี่ปุ่นเจ้าอื่นๆคือ เรามีพนักงานชาวไทยที่จะคอยตอบคำถามและให้ความช่วยเหลือลูกค้าในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การช่วยตามหาสินค้าจากร้านญี่ปุ่น, การติดต่อร้านในญี่ปุ่น หรือปัญหาด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ โดยสามารถติดต่อได้จากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, อีเมล และจากตัวเลือกข้อความในบัญชีผู้ใช้ของคุณ
-
อีกหนึ่งข้อดีของการสั่งสินค้ากับ ZenMarket คือ คุณสามารถเลือกวิธีส่งได้เอง เรามีตัวเลือกวิธีการจัดส่งที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นส่งทางไปรษณีย์ญี่ปุ่น (EMS, Avia Air Mail, SAL, ทางเรือ) หรือจะใช้บริการขนส่งด่วนเอกชน (UPS, FedEx, DHL, SF) ซึ่งเป็นบริการมาตรฐานและได้รับความเชื่อถือจากทั่วโลก นอกจากนี้ คุณยังสามารถเช็คค่าส่งล่วงหน้าเพื่อประมาณค่าใช้จ่ายได้ที่นี่อีกด้วย
-
คุณไม่ต้องกังวลว่าการซื้อของจากต่างประเทศ จะต้องใช้บัตรเครดิตหรือโอนเงินข้ามประเทศเท่านั้น เพราะที่ ZenMarket เรามีตัวเลือกการชำระเงินมากมาย ไม่ว่าจะเป็น PayPal, Wise หรือแม้แต่จ่ายด้วยคริปโต ทุกการชำระเงินถูกคำนวณอัตโนมัติภายในเว็บของเรา ทำให้คุณไม่ต้องคอยเช็คเรทเอง